25 วิธีจัดบ้านให้เป็นระเบียบ ไม่รก น่าอยู่
พบกับ 25 วิธีจัดบ้านให้เป็นระเบียบ ที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณไปตลอดกาล!
รวมทิปส์ได้รวบรวมวิธีจัดบ้านดีๆ ที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริงจากประสบการณ์ เว็บไซต์ชั้นนำ และสุดยอดเคล็ดลับจากมาริเอะ คนโด ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดบ้านจากญี่ปุ่น มาฝากเพื่อนๆ ถ้าพร้อมแล้ว มาเริ่มที่วิธีแรกกันเลย
1. จัดบ้านแบบรวดเดียว
การจัดบ้านทีละห้อง ทีละส่วน หรือทำวันละนิด เป็นเรื่องที่ฟังดูดี แต่มันทำให้เราต้องทำงานเดิมๆ ซ้ำๆ บ่อยๆ ใครจะอยากจัดบ้านบ่อยๆ จริงไหม? และกว่าตรงนี้จะเรียบร้อย ที่อื่นก็กลับมารกอีกแล้ว เว้นเสียแต่ว่าบ้านรกและมีขยะมากจริงๆ ก็อาจต้องค่อยๆ จัดทีละส่วน แล้วค่อยเก็บงานทั้งบ้านอีกที
2. เน้นทิ้ง มากกว่าจัดให้เป็นระเบียบ
บ้านที่รกมักมีของส่วนเกินอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งคิดถึงวิธีการจัดระเบียบแบบพิสดารหรือชั้นวางสุดเท่ สิ่งที่ต้องทำก่อนเลยคือ ทิ้ง ไม่ใช่ จัด
3. เก็บไว้เฉพาะของที่ดีต่อใจ
ทิ้งของเก่า ของเสีย ของใช้งานได้ไม่เต็มร้อย เก็บไว้เฉพาะของที่เราชอบและของที่เราใช้จริง
สำหรับคนที่ตัดใจทิ้งยากและมักเก็บไว้เผื่อใช้เสมอ เรามีเคล็ดลับง่ายๆ คือให้ลองนึกว่าของชิ้นนี้ 1 ปีที่ผ่านมา ได้หยิบมาใช้บ้างไหม ถ้าไม่ ก็ถึงเวลาต้องทิ้งแล้วล่ะ
4. เริ่มจัดของใช้ของตัวเองก่อน
สำหรับใครที่อยู่ร่วมกับคนอื่น ให้เริ่มจัด เริ่มทิ้งจากของตัวเองก่อน ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นตัวการทำรกก็เถอะ อย่าเพิ่งไปแตะของคนอื่นเดี๋ยวจะผิดใจกันเปล่าๆ ให้ทำตัวอย่างที่ดีให้เขาเห็น พอเขาเห็นพื้นที่ของเราสะอาด ก็ต้องอยากจัดบ้านบ้างแหละน่า
5. รีบแยก รีบทิ้ง
ใครที่เคยจัดบ้านรกๆ มาแล้ว จะพบว่าตอนจัดบ้าน เราต้องตัดใจทิ้งของเก่าที่เหมือนจะยังใช้ได้เยอะมาก ซึ่งถ้าตัดสินใจทิ้งลงถุงขยะแล้ว ก็ควรรีบเอาไปทิ้งให้ไกลตาทันที เพราะอาจมีคนอื่นขอไปใช้หรือเราเองนี่แหละ ที่ยังตัดไม่ขาดและหยิบมันกลับมา
6. จัดทีละหมวดหมู่
ใครจะรู้ว่าของแต่ละอย่างก็มีระดับความยาก-ง่ายในการตัดสินใจทิ้ง
คนโด มาริเอะ บอกว่า เราควรเริ่มจากของที่ตัดใจทิ้งได้ง่ายๆ ก่อน พอเราเก่งขึ้นแล้ว ก็จะทิ้งของราคาแพงที่ไม่ชอบแล้ว หรือของที่เคยมีคุณค่าทางจิตใจได้อย่างไม่ลำบากใจ
ลำดับการทิ้งที่ดีคือ เครื่องแต่งกาย หนังสือ เอกสาร ของจิปาถะ และของที่มีคุณค่าทางจิตใจ
7. ทิ้งเสื้อผ้าเก่าๆ
เสื้อผ้าเก่า ขาด ไซส์ไม่พอดีแล้ว ควรกำจัดออกไปจากบ้าน ไม่ควรเอามาใส่นอน หรือใช้เป็นผ้าขี้ริ้ว
8. ม้วนหรือพับเสื้อผ้าแบบคมมาริ
วิธีพับเสื้อผ้าตามแบบคมมาริ มีดังนี้ “พับเสื้อตามแนวยาวทั้ง 2 ด้านเข้าหากึ่งกลาง จากนั้น พับเก็บแขนเสื้อไม่ให้โผล่ออกมาเป็นส่วนเกิน จากนั้นให้จับชายเสื้อแล้วพับครึ่งขึ้นมา ต่อด้วยการพับอีกครั้งให้เหลือครึ่งหนึ่งหรือ 1 ใน 3”
9. ซ้อนกระเป๋าใบเล็กไว้ในใบใหญ่
ใส่กระเป๋าใบเล็กในกระเป๋าใบใหญ่ แต่ไม่ควรใส่เกิน 2 ใบ แล้วเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้า หลีกเลี่ยงการแขวนหรือวางไว้ด้านนอก เพราะจะทำให้ดูรก
10. บอกลาหนังสือที่ดองไว้
ถ้าคุณดองหนังสือไว้เป็นเดือนๆ ปีๆ แปลว่า คุณไม่ได้อยากอ่านมันจริงๆ หรือคงจะไม่ได้อ่านมันแล้วล่ะ ไว้มีเวลาว่างหรืออยากอ่านจริงๆ ค่อยซื้อมาดีกว่า ส่วนเล่มที่ดองไว้ตอนนี้ ก็คงต้องนำไปบริจาคหรือขายต่อให้หมด อาจจะเลือกเก็บไว้เฉพาะบางเล่มที่รักมากจริงๆ
11. ใส่เอกสารสำคัญไว้ในแฟ้ม
ควรเก็บเอกสารสำคัญไว้ในแฟ้มที่เปิดดูได้เหมือนหนังสือ ส่วนเอกสารที่ต้องจัดการ ก็ควรรีบสะสางและทำให้แฟ้มหรือกล่องว่างอยู่เสมอ
12. เก็บเศษเหรียญไว้ในกระเป๋าใบน้อย
ควรมีกระเป๋าใบน้อยสำหรับเหรียญ เพื่อจะได้หยิบมาใช้จ่ายได้อย่างสะดวก กระปุกออมสินไม่ใช่ตัวเลือกที่ดี เพราะจะทำให้เราเก็บเหรียญไว้นานจนไม่ได้เอาออกมาใช้ซักที จนสุดท้ายอาจจะลืมไปเลยว่าเคยเก็บไว้ที่ไหน
13. ของที่คนอื่นให้มา ถ้าไม่ชอบก็ทิ้งได้
ของขวัญ ของชำร่วยต่างๆ เป็นเพียงวิธีหนึ่งในการถ่ายทอดความรู้สึกดีๆ จากอีกฝ่าย แค่รับมันมาก็เท่ากับว่าเราได้รับความรู้สึกเหล่านั้นแล้ว ไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดหากต้องโยนของพวกนั้นทิ้งไป หากคุณไม่ชอบมันอีกแล้ว
14. กล่องและถุงพลาสติกเก่า ทิ้งไป ไม่ต้องเสียดาย
ไม่ควรเก็บกล่องและถุงพลาสติกเอาไว้ แค่ “เผื่อ” ว่าจะได้ใช้ใส่ของ ของพวกนี้เรามักจะได้มาเรื่อยๆ อยู่แล้ว ถ้าจะเก็บ ก็ควรเก็บเพราะต้องใช้จริงๆ ไม่ใช่แค่ต้องใช้ซักวัน
15. ไม่เอาของส่วนเกินไปเก็บไว้อีกบ้าน
ไม่ว่าจะเป็นบ้านของพ่อแม่ หรือบ้านหลังอื่นของคุณก็ตาม ที่นั่นไม่ใช่โกดังเก็บของเก่า ถ้าคิดจะทิ้งอะไรแล้ว ก็ควรทิ้งไปเลย มิฉะนั้น ของส่วนเกินเหล่านั้นก็จะยังวนเวียนให้คุณต้องจัดเก็บไม่จบไม่สิ้น
16. ของที่มีคุณค่าทางจิตใจ ถ้าเก่าเกินไปก็ต้องทิ้ง
เราสามารถเก็บของที่มีคุณค่าจริงๆ ไว้ได้บ้าง แต่อย่าลืมว่าบ้านควรเป็นพื้นที่สำหรับตัวตนของเราในปัจจุบัน ไม่ใช่อดีต เพราะฉะนั้นของบางอย่างที่เคยมีคุณค่า ก็อาจถึงเวลาที่ต้องบอกลาและเก็บไว้เป็นเพียงความทรงจำ
17. กำหนดตำแหน่งให้ของแต่ละชิ้นในบ้าน
การกำหนดตำแหน่งให้ของแต่ละชิ้น จะช่วยให้การหยิบใช้และจัดเก็บสะดวกรวดเร็วโดยไม่ต้องใช้ความพยายามเลย
18. เก็บของประเภทเดียวกันไว้ด้วยกัน
วิธีนี้จะช่วยให้เรารู้ปริมาณของที่เรามีอยู่ เวลาคิดจะซื้อเพิ่ม ก็จะได้รู้ว่าควรซื้อจริงๆ หรือไม่
19. อุปกรณ์เก็บของล้ำๆ ก็ไร้ค่า ถ้านิสัยเหมือนเดิม
อุปกรณ์เก็บของล้ำๆ อาจดูเท่ ดูเจ๋ง น่าใช้งาน แต่มันคงไม่ช่วยอะไร ถ้าเรายังเปลี่ยนความคิดเรื่องการเก็บและทิ้งของไม่ได้
20. เก็บของที่วางเกะกะเข้าตู้ให้หมด
แม้จะเป็นของที่หยิบใช้บ่อย เช่น เครื่องปรุงอาหาร แก้วน้ำ จานชาม แต่ก็ควรเก็บไว้ในตู้ วิธีนี้จะทำให้บ้านของคุณเป็นระเบียบอยู่ตลอดเวลา
21. เก็บของเข้าที่ทันที ไม่ต้องรอ
ทุกครั้งที่ซื้อของมาใหม่ ให้แกะหีบห่อ ทำความสะอาดและเก็บเข้าที่ทันที
22. หลีกเลี่ยงตู้กระจก หรือตู้ที่ไม่มีฝาปิด
แม้ว่าตู้กระจกใสจะช่วยให้บ้านดูโปร่ง แต่การที่เราเห็นสิ่งของยัดรวมกันอยู่ในตู้ ก็จะทำให้บ้านดูรกไปโดยปริยาย ตู้กระจกจึงเหมาะกับการเป็นตู้โชว์มากกว่า ตู้ที่ไม่มีฝาปิดก็เช่นเดียวกัน แถมยังป้องกันฝุ่นไม่ได้อีกด้วย
23. กำจัดเฟอร์นิเจอร์เก่า
ควรหาทางกำจัดเฟอร์นิเจอร์เก่าหรือเสียทิ้งไปซะ ไม่ว่าจะซ่อมแซมหรือขายต่อ เพราะเฟอร์นิเจอร์เก่า โดยเฉพาะอันที่ใช้งานได้ไม่ดีแล้ว จะทำให้บ้านดูรกและทรุดโทรม
24. ตู้เก็บรองเท้าต้องเพียงพอสำหรับทุกคู่
ตู้เก็บรองเท้าต้องมีที่เก็บเพียงพอสำหรับทุกคู่ หรืออย่างน้อยๆ ก็คู่ที่ใส่บ่อยๆ จะได้ไม่ต้องวางรองเท้าหลายๆ คู่ไว้นอกตู้ ซึ่งทำให้บ้านดูรกและสกปรกได้ง่าย
25. ซ่อนสายเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เนียน
ควรหาวิธีเดินสายไฟ สายเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ให้แนบเนียนที่สุด ซ่อนได้เลยยิ่งดี เพราะสายไฟที่ระโยงระยาง หรือพันขดเป็นก้อนๆ จะทำให้บ้านดูไม่เรียบร้อยมากทีเดียว
รู้ 25 วิธีจัดบ้านให้เป็นระเบียบ ไม่ให้รก กันไปแล้ว ต่อไปก็ต้องเริ่มลงมือ! ถึงจะฟังดูยาก แต่เราเชื่อว่าทุกคนทำได้ เริ่มจัดบ้านกันเลย!